บั้งไฟพญานาค จังหวัดหนองคาย รวมเกร็ดความรู้แนะนำสำหรับนักท่องเที่ยวที่กำลังวางแผนเดินทางไปเที่ยวหนองคาย เพื่อชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคช่วงเทศกาลออกพรรษาประจำปี 2559
ปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากเดินทางไปท้าพิสูจน์ปรากฏการณ์สุดแปลก กับดวงไฟที่ประทุขึ้นบริเวณใจกลางลำน้ำโขงเป็นอย่างมาก วันนี้เราเลยไม่รอช้าแวะไปรวบรวมเอาเรื่องที่คุณควรรู้ก่อนวางแผนเดินทางไปชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค จังหวัดหนองคาย ในเทศกาลออกพรรษาประจำ 2559
สำหรับบั้งไฟพญานาคเป็นปรากฏการณ์ความมหัศจรรย์ที่ลูกไฟสีแดงอมชมพูพวยพุ่งขึ้นจากลำแม่น้ำโขง เหนือผิวน้ำตั้งแต่ระดับ 1-30 เมตร แล้วพุ่งแหวกอากาศขึ้นไปสูงประมาณ 50-150 เมตร นานประมาณ 5-10 วินาที แล้วก็จะดับหายวับไปในอากาศ โดยไม่มีลักษณะโค้งตกลงมาเหมือนดอกไม้ไฟ ลูกไฟที่เกิดขึ้นจะไม่มีกลิ่น ไม่มีควัน ไม่มีเสียง ขนาดของลูกไฟมีตั้งแต่เท่าหัวแม่มือจนถึงขนาดเท่าฟองไข่ไก่ และจะเริ่มปรากฏให้เห็นตั้งแต่พระอาทิตย์ตกดินจนถึงเวลาประมาณเที่ยงคืนของวันออกพรรษา ซึ่งตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ของทุกปี
โดยสามารถดูได้จากสถานที่ต่าง ๆ ตลอดริมแม่น้ำโขง อาทิ อำเภอโพนพิสัย อำเภอรัตนวาปี, อำเภอศรีเชียงใหม่, อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย และอำเภอปากคาด จังหวัดบึงกาฬ ส่วนจะมีข้อสำคัญอะไรที่เราควรรู้กันบ้างนั้น ตามไปเช็กรายละเอียดพร้อม ๆ กันเลย
1. จังหวัดหนองคายได้จัดงานประเพณีออกพรรษา ประจำปี 2559 โดยแบ่งเป็น 2 สถานที่จัดงานคือ
– งานประเพณีไหลเรือไฟบั้งไฟพญานาคโลก และงานประเพณีแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2559 จัดขึ้นในวันที่ 15-24 ตุลาคม 2559 ณ เทศบาลตำบลโพนพิสัย อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย
– งานประเพณีออกพรรษาและเทศกาลบั้งไฟพญานาค ประจำปี 2559 (Naga Fireball World Festival 2016) จัดขึ้นในวันที่ 13-19 ตุลาคม 2559 ณ บริเวณเทศบาลเมืองหนองคาย อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย
2. ถ้าอยากชมบั้งไฟพญานาคต้องเดินทางไปปักหลักรอชมที่บริเวณริมแม่น้ำโขง ตลอดทั้งสายจากจังหวัดหนองคายถึงจังหวัดบึงกาฬ แต่ถ้าอยากเดินเที่ยวชมงานมหรสพ การแสดงแสง สี เสียง ต้องไปในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย
3. กิจกรรมหลักที่น่าสนใจที่จัดขึ้นภายในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย ได้แก่ กิจกรรมช้อป ชิม ชิล ภายในถนนอาหาร การแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทาน และจุดพลุเฉลิมพระเกียรติฯ และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย โดยไฮไลท์หลักของงานคือการแสดงแสง สี เสียง เปิดตำนานบั้งไฟพญานาค
ส่วนกิจกรรมหลักในอำเภอโพนพิสัย ได้แก่ ปรากฏการณ์ชมบั้งไฟพญานาค, ชมกิจกรรมไหลเรือไฟ, ตักบาตรเทโวโรหณะ, การทำบุญมหากุศล 9 วัด, การเจริญศีลสวดมนต์ภาวนาและนั่งสมาธิ, การบวงสรวง “บูชาพญานาค” และการแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทาน เป็นต้น
4. นักท่องเที่ยวที่กำลังวางแผนการเดินทางไปยังจุดชมบั้งไฟพญานาค หรือกำลังหาข้อมูลกันอยู่ขอแนะนำ 7 จุดสำคัญ สำหรับดูบั้งไฟพญานาค มาให้เพื่อน ๆ ได้ปักหมุดนั่งชมบั้งไฟพญานาคสวย ๆ อาทิ บริเวณพุทธอุทยานนานาชาติ, วัดไทยและริมแม่น้ำโขงตลอดตัวเมืองโพนพิสัย และบ้านหนองกุ้ง บริเวณจุดชมวิวแม่น้ำสองสี ในอำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย
ส่วนที่อำเภอรัตนวาปี คือบริเวณบ้านน้ำเป ใกล้พุทธอุทยานนานาชาติ, บริเวณบ้านท่าม่วง บ้านโพนแพง และบ้านอาญา ทางด้านอำเภอสังคมก็มีจุดชมบั้งไฟให้เลือก คือบริเวณจุดชมอ่างปลาบึกบ้านผาตั้ง และอำเภอศรีเชียงใหม่ที่วัดหินหมากเป้ง ซึ่งจุดชมบั้งไฟพญานาคที่มีสถิติการมองเห็นและมีบั้งไฟมากที่สุดคือ อำเภอรัตนวาปี
5. นอกจากจังหวัดหนองคายแล้ว อีกหนึ่งพื้นที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถชมบั้งไฟพญานาคได้คือ จังหวัดบึงกาฬ โดยจุดชมวิวที่น่าสนใจได้แก่ บริเวณแก่งอาฮงและวัดอาฮงศิลาวาส อำเภอเมือง และอำเภอบึงโขงหลง บริเวณริมแม่น้ำโขง, บริเวณบึงโขงหลง และบริเวณหาดคำสมบูรณ์ และอำเภอปากคาดบริเวณริมแม่น้ำโขงของอำเภอปากคาด เป็นต้น
6. ด้วยภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยธรรมชาติมากมาย ที่พักในโพนพิสัยและภายในจังหวัดหนองคายจึงมีให้เลือกหลายรูปแบบ ซึ่งหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจคือที่พักริมแม่น้ำโขง นอกจากจะได้บรรยากาศเงียบสงบแล้ว ยังได้ชื่นชมแม่น้ำโขงสายน้ำแห่งชีวิตอย่างประทับใจได้อีกด้วย
7. การเดินทางไปหนองคายสามารถเดินทางไปได้สะดวกหลายวิธี ทั้งเดินทางมาด้วยรถส่วนตัว ส่วนนักท่องเที่ยวที่ไม่มีรถสามารถใช้บริการรถโดยสารปรับอากาศของบริษัท ขนส่ง จำกัด และของเอกชน สายกรุงเทพฯ-หนองคาย ออกจากสถานีขนส่งสายเหนือ (หมอชิต 2) ถนนกำแพงเพชร 2 ทุกวัน วันละหลายเที่ยว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดได้ที่บริษัท ขนส่ง จำกัด โทรศัพท์ 1490 www.transport.co.th
ส่วนการรถไฟแห่งประเทศไทยมีบริการรถไฟออกจากสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ไปยังจังหวัดหนองคายทุกวัน ทั้งรถเร็วและรถด่วน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 12 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดได้ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย โทรศัพท์ 1690 หรือ www.railway.co.th และการโดยสารเครื่องบินสามารถโดยสารเครื่องบินไปลงยังสนามบินนานาชาติอุดรธานี จากนั้นต่อรถโดยสารไปยังจังหวัดหนองคายอีกครั้ง
การเดินทางมายังโพนพิสัย สามารถเดินทางได้สะดวกด้วยบริการรถตู้ สาย หนองคาย-ปากคาด (แอร์น้อย) ค่าบริการเพียง 40 บาทต่อคน บริการตั้งแต่ 6.00-18.00 น. รอบรถประมาณ 25 นาที ออก ใช้เวลาเดินทางแค่ 30-45 นาที ก็ถึงโพนพิสัยแล้ว
8. ชมรายละเอียดกำหนดการจัดงานเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย
– งานประเพณีไหลเรือไฟบั้งไฟพญานาคโลก และงานประเพณีแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2559 วันที่ 15-24 ตุลาคม 2559 ณ เทศบาลตำบลโพนพิสัย อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย
– งานประเพณีออกพรรษาและเทศกาลบั้งไฟพญานาค ประจำปี 2559 (Naga Fireball World Festival 2016) วันที่ 13-19 ตุลาคม 2559 ณ บริเวณเทศบาลเมืองหนองคาย อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย
(หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบก่อนออกเดินทางทุกครั้ง)
9. มีเวลาท่องเที่ยวหลายวันนอกจากดูบั้งไฟพญานาคแล้ว เราสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวยังสถานที่น่าสนใจอื่น ๆ ได้ ทั้งข้ามไปเที่ยวลาว ช้อปปิ้งและเที่ยวแบบเก๋ ๆ ชมวิวความสวยงามของสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ไหว้พระเสริมมงคล ณ วัดโพธิ์ชัย ชมพระธาตุบังพวน ช้อป ชิม ชิล ตลาดท่าเสด็จ (ตลาดอินโดจีน) หรือจะไปชมทะเลหมอกฟิน ๆ ที่ภูห้วยอีสัน ก็ดีไม่น้อย และอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวน้องใหม่ที่ไม่ควรพลาดกับสกายวอล์คกระจกใสวัดผาตากเสื้อ
10. ไปเที่ยวหนองคายทั้งทีมีร้านอร่อยที่ต้องตามไปเช็กอินแล้วหรือยัง ? เราขอเชิญไปท้าความอร่อย กับเมนูอาหารพื้นบ้านตามสไตล์เมืองหนองคายที่มีดีทั้งร้านอาหารคาว-หวาน ห้ามพลาดที่สุดก็คือแหนมเนือง เมนูปลาน้ำโขง เป็นต้น
ทั้งนี้หากมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดติดต่อได้ที่ ศูนย์บริการท่องเที่ยว จังหวัดหนองคาย โทรศัพท์ 042 421326 และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุดรธานี โทรศัพท์ 042 325406-7 หรือสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดหนองคาย โทรศัพท์ 042 412110
ขอขอบคุุณข้อมูลจาก
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานหนองคาย
เรียบเรียงโดยกระปุกดอทคอม
ติดตามข้อมูลอัพเดทใหม่ๆ รวดเร็วได้ที่เพจ โพนพิสัย หนองคาย ของเราได้เลยจ้า